รู้หรือไม่? ทำไมธุรกิจต้องมีโลโก้ นั่นก็เพราะโลโก้มีผลต่อการจดจำของลูกค้า ซึ่งเป็นพฤติกรรมตามทำชาติที่ผู้บริโภคสามารถจดจำ และรับรู้ของแบรนด์ได้ ดังนั้น การออกแบบโลโก้จึงจำเป็นต่อการทำธุรกิจ แต่จะสร้างโลโก้ให้โดดเด่นได้อย่างไรนั้น วันนี้ Wisdom มีคำตอบ…
ออกแบบโลโก้อย่างไรให้คนจดจำ?
1. ทำความเข้าใจว่าทำไมต้องมีโลโก้
ธุรกิจก็เหมือนการออกเดท จึงต้องสร้างตัวตนและโปรไฟล์ให้น่าดึงดูด และเหมาะสม และทำให้ลูกค้าตกหลุมรัก และสนใจ และพยายามที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจให้ได้มากที่สุด โลโก้ของคุณจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการสร้างความประทับใจครั้งแรก ดังนั้น โลโก้จึงเป็นส่วนสำคัญของแบรนด์ และธุรกิจ
2. กำหนดเอกลักษณ์ของแบรนด์
โลโก้เปรียบเสมือนตัวแทนบุคลิก และภาพลักษณ์ของแบรนด์ หากแบรนด์มีเอกลักษณ์ และตัวตนที่ชัดเจนจะทำให้การออกแบบโลโก้ง่ายมากขึ้น เช่น การเริ่มต้นธุรกิจ, ความเชื่อและค่านิยมของบริษัท, สิ่งที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ เป็นต้น
3. คำนึงถึงกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์มีผลโดยตรงต่อการออกแบบโลโก้ จึงต้องทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายก่อน และออกแบบโลโก้ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย
4. ศึกษาคู่แข่ง
ศึกษาโลโก้ของคู่แข่ง ว่ามีลักษณะแบบใด จะทำอย่างไรให้แตกต่าง แต่ยังคงความเป็นตัวตนของแบรนด์ นอกจากนี้การศึกษาคู่แข่งยังช่วยให้แบรนด์สามารถหลีกเลี่ยงองค์ประกอบบางอย่างที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย
ตัวอย่างโลโก้บริษัทบัญชีทั้ง 3 บริษัท มีความแตกต่างกัน และสามารถสื่อสารตัวตนและเอกลักษณ์ของบริษัทได้อย่างชัดเจน
- โลโก้รูปสิงโตคลาสสิกแต่น่าเชื่อถือ ของ Orthrus Ventures
- โลโก้ทันสมัย และเท่ ของ Tidy Finance
- โลโก้ที่สนุกสนาน เข้าถึงได้ง่าย และมีสีสันสดใส ของ Hot Toast
5. เลือกดีไซน์ของโลโก้
เมื่อมีแนวคิดที่ชัดเจนจากการสร้างเอกลักษณ์ และตัวตน ก็ถึงเวลาที่จะใส่องค์ประกอบต่างๆเข้าไป ทั้ง สี รูปทรง ตัวอักษร และกราฟิก โดยต้องคำนึงถึงเอกลักษณ์ที่กำหนดไว้ด้วย ซึ่งมีหลากหลายแบบด้วยกัน ได้แก่
- โลโก้คลาสสิก มีความทันสมัย น่าตื่นเต้น แต่ก็ผสมผสานไปด้วยความคลาสสิก ที่มีพลัง สวยงาม เรียบง่าย
- โลโก้ย้อนยุค วินเทจ เหมาะสำหรับภาพลักษณ์แบรนด์ที่ชวนนึกถึงอดีต และโรแมนติก
- โลโก้โมเดิร์นและมินิมอล สะอาดตา เรียบง่าย และมีความสดใหม่ ทันสมัย รายละเอียดน้อย แต่โฉบเฉี่ยว
- โลโก้สนุกสนาน และแปลกตา เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น มักจะมีสีสันสดใส สร้างคาแรคเตอร์ที่สนุกสนานให้กับแบรนด์
- โลโก้แฮนด์เมด หรือแฮนด์คราฟท์ ที่ใช้ลายมือ หรือลานเส้นที่วาดจริงมาเป็นตัวแทน มักจะเหมาะกับแบรนด์ที่มีสุนทรียศาสตร์ มีความเรียบง่าย แต่ซับซ้อน
6. เลือกประเภทโลโก้
ประเภทของโลโก้นั้นมีด้วยกัน 7 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
- Lettermarks หรือ monogram logos เหมาะกับบริษัทที่มีชื่อยาวมากและจำยาก จึงต้องเอาตัวอักษรย่อมาทำเป็นโลโก้แทน
- Wordmarks หรือ logotypes ใช้ชื่อบริษัทอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้จดจำชื่อบริษัทได้อย่างรวดเร็ว
- Pictorial marks หรือ สัญลักษณ์โลโก้ ใช้ภาพที่จดจำง่ายเป็นตัวแทนของแบรนด์ แต่ก็ยังสื่อสารความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้ด้วย
- โลโก้แบบนามธรรม เป็นโลโก้รูปทรงแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์และทันสมัย แต่ก็ยังมีอารมณ์และความรู้สึกของแบรนด์อยู่ด้วย
- โลโก้แบบมาสคอต ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์มาในรูปแบบตัวการ์ตูนที่มีสีสนสดใส
- โลโก้แบบผสมผสาน ทั้งเครื่องหมายการค้า ตัวอักษร และแบบอื่นๆ
- โลโก้ตราสัญลักษณ์ คือการผสมผสานระหว่าคำกับองค์ประกอบภาพต่างๆ เช่น ป้าย ตราประทับ หรือตราสัญลักษณ์ เป็นต้น
7. เลือกสีของโลโก้
สีนั้นมีความหมายต่อการออกแบบมาก สีสันแต่ละสีมีความหมายแตกต่างกัน และมีความซับซ้อน และยังมีความหมายแตกต่างกันด้วย
- สีแดง หมายถึง ความตื่นเต้น ความหลงใหล และความโกรธ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะมีความอ่อนเยาว์ และโดดเด่น
- สีส้ม หมายถึงมีพลังสดใส มีชีวิตชีวา และขี้เล่น
- สีเหลือง หมายถึง เข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตร ร่าเริง ราคาไม่แพงและอ่อนเยาว์
- สีเขียว หมายถึง สีเขียวมีความหลากหลายมากและสามารถใช้ได้กับทุกยี่ห้อจริงๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
- สีน้ำเงิน หมายถึง คลาสสิกและธรรมดามาก สงบและเยือกเย็น และเป็นสัญลักษณ์ของความน่าเชื่อถือและวุฒิภาวะ
- สีม่วง หมายถึง หรูหรา ลึกลับ ผสมผสาน หรือผู้หญิงก็ได้ ขึ้นอยู่กับเฉดสีที่เลือก
- ชมพู หมายถึง ถ้าเป็นผู้หญิง ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าสีชมพู แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด! ด้วยเฉดสีอย่างกุหลาบพาสเทล ชมพูพันปี หรือม่วงแดงนีออน สีชมพูสามารถทำให้โลโก้ของคุณดูโตและเท่ แต่ยังดูอ่อนเยาว์และเป็นผู้หญิง
- สีน้ำตาล หมายถึง วินเทจ แข็งแรงและเป็นชาย สามารถทำให้แบรนด์ดูเป็นงานแฮนด์เมด ไม่ซ้ำใคร และมีอายุมากขึ้น
- สีดำ หมายถึง โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และหรูหรา สีดำจะเป็นตัวเลือกที่ดี หากต้องการทำให้เรียบง่าย
- สีขาว หมายถึง สะอาด ทันสมัย และเรียบง่าย สีขาวสามารถใช้เป็นสีกลาง ในการผสมร่วมกับสีอื่นๆได้อีกด้วย
- สีเทา หมายถึง ลุคที่ดูเป็นผู้ใหญ่ คลาสสิก และจริงจัง เฉดสีที่เข้มกว่าจะดูลึกลับกว่า ในขณะที่เฉดสีที่สว่างกว่านั้นเข้าถึงได้ง่ายกว่า
8. เลือกแบบอักษรที่เหมาะสม
แบบอักษรถือเป็นสิ่งที่เติมเต็มโลโก้ให้สมบูรณ์ โดยแบบอักษรจะมีหลักๆอยู่ 4 แบบ ได้แก่
- Serif fonts มีความเก๋ไก๋ และไร้การเวลา คลาสสิก หรูหรา วินเทจ
- Sans serif fonts มีความทันสมัย สะอาดตา โฉบเฉี่ยว และเรียบง่าย
- Script fonts ฟอนต์แบบลายมือ มีความเรียบง่าย ผ่อนคลาย และมีเอกลักษณ์
- Display fonts มีดีไซน์ที่แปลกใหม่ เน้นการออกแบบด้วยกราฟิกต่างๆ เพื่อให้ดูทันสมัย สนุกสนาน
แหล่งไอเดียออกแบบโลโก้ที่ต้องเซฟเก็บไว้!
1. Pinterest
แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับสร้างแรงบันดาลใจ ด้วยระบบ AI ที่ทำให้ค้นหาได้รวดเร็ว และยังมีกระดานบอร์ดมากมายที่ผู้คนแชร์กันอีกด้วย
หากคุณชื่นชอบโลโก้วินเทจ และต้องการแรงบันดาลใจจากทศวรรษที่ 70 เว็บไซต์นี้เหมาะสมมาก เพราะเต็มไปด้วยโลโก้วินเทจต่างๆมากมาย และยังมีข้อมูลเกี่ยวกับโลโก้ต่างๆมากมายอีกด้วย
3. Dribbble
หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เป็นแหล่งค้นหา แชร์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบโลโก้ คล้ายๆกับแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดียอื่นๆด้วย
4. Behance
แพลตฟอร์มที่นักออกแบบ และครีเอทีฟต่างๆร่วมกันจัดแสดงผลงานไว้มากมาย รวมไปถึงโลโก้ด้วย
แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจของศิลปิน และแบ่งแนวคิดการออกแบบ รวมไปถึงโลโก้ และยังมีคีย์เวิร์ดค้นหาที่หลากหลาย และเจาะจงได้ลึกอีกด้วย
6. Brand New by UnderConsideration
บล็อกโพสต์ที่รวบรวมงานออกแบบโลโก้ไว้มากมาย และยังมีวิธีในการคิด และออกแบบไว้ให้เรียนรู้อีกด้วย
เว็บไซต์ที่มีไอเดียออกแบบโลโก้ต่างๆมากมาย และยังมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องรางการออกแบบโลโก้ที่มีชื่อเสียง และข้อมูลเชิงลึกว่าทำไมโลโก้ต่างๆถึงเป็นที่น่าจดจำ และประสบความสำเร็จอีกด้วย
8. BrandColors
เรียกได้ว่าเป็นเว็บไซต์ทรงคุณค่าที่อาจจะไม่ได้เป็นดีไซน์การออกแบบโลโก้โดยตรง แต่เป็นการค้นหาสีต่างๆที่ใช้ในโลโก้ ของแบรนด์ต่างๆ เพื่อให้เป็นไอเดีย แรงบันดาลใจของนักออกแบบด้วย
99% Invisible เป็นเว็บไศต์พอดแคสต์ ที่เล่าเรื่องราวต่างๆของงานดีไซน์ รวมไปถึงการออกแบบโลโก้ ซึ่งเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบ ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ อย่าง Visual Identity with Tom Geismar
10. worldbranddesign
World Brand Design Society (WBDS) ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 เป็นชุมชนระดับสากล โดยมุ่งเน้นที่การเน้นย้ำถึงบรรจุภัณฑ์ที่มีตราสินค้าที่โดดเด่น และสามารถส่งผลงานเพื่อนำเสนอบนเว็บไซต์ และอินสตราแกรมได้อีกด้วย
ที่มา looka.com / 99 designs.com