what-is-supply-chain

Supply Chain คือ อะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่าง

Supply Chain คือ โซ่อุปทาน เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและควบคุมการเคลื่อนย้ายของวัสดุและสินค้าจากผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายไปยังลูกค้า โดยผ่านการรวบรวมข้อมูลและความร่วมมือระหว่างหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้ขนส่ง ร้านค้า และลูกค้า

เพื่อทำความรู้จัก Supply Chain ให้มากขึ้น บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลในด้านขององค์ประกอบและตัวอย่างของห่วงโซ่อุปทานเอาไว้ด้วย ถ้าไม่อยากพลาดสามารถอ่านต่อกันได้เลย

Supply Chain คืออะไร

portrait-asian-woman-business-owner-using-digital-tablet-checking-amount-stock-product-inventory-shelf-distribution-warehouse-factorylogistic-business-shipping-delivery-service

Supply Chain หรือ ห่วงโซ่อุปทาน เป็นกระบวนการทำงานที่เรียงร้อยตั้งแต่ต้นน้ำของแหล่งวัตถุดิบไปจนถึงปลายน้ำซึ่งก็คือมือผู้บริโภคหรือลูกค้า โดย Supply chain มีหลายขั้นตอนและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การวางแผนการผลิต การจัดเก็บคลังสินค้า การขนส่งสินค้า การจัดส่ง การจัดการสินค้าคืน (Reverse Logistics) และการควบคุมคุณภาพ

โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงสร้าง Supply Chain คือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย ลดเวลาในการส่งมอบสินค้า และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศและความร่วมมือระยะไกลได้เพิ่มความซับซ้อนและความเร็วในกระบวนการ Supply chain อีกด้วย การใช้ระบบคอมพิวเตอร์และโซลูชันซอฟต์แวร์สามารถช่วยให้การดำเนินงานในโซ่อุปทานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้นด้วยการติดตามและบริหารจัดการการสั่งซื้อ สต็อกสินค้า และการจัดส่งอย่างต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT: Internet of Things) และการใช้ระบบรถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicles) ก็มีผลในการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการดำเนินงานด้าน supply chain เพื่อให้มีประสิทธิภาพอย่างมากขึ้นหลายเท่าตัว

องค์ประกอบหลักของ Supply Chain คือ อะไร

still-life-supply-chain-representation
  • ผู้ผลิต (Manufacturer): บริษัทหรือองค์กรที่ผลิตสินค้าหรือวัสดุที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโซ่อุปทาน พวกเขาเป็นผู้สร้างคุณค่าของสินค้าและจะต้องใช้กระบวนการผลิตเพื่อผลิตสินค้าเหล่านั้น
  • ผู้จัดจำหน่าย (Distributor): บริษัทหรือองค์กรที่รับสินค้าจากผู้ผลิตและจัดจำหน่ายให้แก่ร้านค้าหรือผู้บริโภคทางตรง พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการกระจายสินค้าไปยังตลาด
  • โกดัง (Warehouse): สถานที่เก็บรักษาสินค้าที่ยังไม่ถูกจัดส่งหรือจำหน่ายออกไป ซึ่งการจัดเก็บสินค้าในโกดังมีความสำคัญอย่างมากในการบริหารจัดการคลังสินค้าและให้ความสะดวกในกระบวนการขนส่งต่อไป
  • ระบบขนส่ง (Transportation System): การขนส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค เป็นจุดที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้ หากจัดส่งได้รวดเร็วและไม่มีข้อผิดพลาด
  • ระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Communication and Information Technology): การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อติดตามและควบคุมกระบวนการใน supply chain จะช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้เกี่ยวข้องได้ข้อมูลถูกต้องและทันเวลา
  • การวางแผนและการจัดการสต็อก (Inventory Management and Planning): การควบคุมและบริหารจัดการสต็อกสินค้าเพื่อให้มีสินค้าเพียงพอในเวลาที่จำเป็นและลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้า
  • บริหารคุณภาพ (Quality Management): การควบคุมและคุณภาพของสินค้าเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ส่งมอบไปถึงมือลูกค้ามีคุณภาพตามมาตรฐานและตรงกับความต้องการ
  • การบริหารจัดการความต้องการ (Demand Management): การวางแผนและการบริหารจัดการความต้องการของสินค้าเพื่อให้สามารถสร้างสินค้าตามความต้องการของตลาด
  • การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย (Risk Management and Security): การจัดการ Supply Chain Management คือ กระบวนการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ในตำแหน่งงานส่วนนี้จะมีหน้าที่ในการบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นจากสภาวะภูมิอากาศ หรือปัจจัยอื่น ๆ
  • การตรวจสอบและการวิเคราะห์ (Monitoring and Analytics): เป็นตำแหน่งงานที่ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ เพื่อติดตามและปรับปรุงกระบวนการใน Supply Chain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ความสำคัญของ Supply Chain คือ อะไร

supply-chain-representation-still-life

ระบบ Supply Chain มีความสำคัญมากในธุรกิจและองค์กรหลายแห่ง ดังนี้

1. ลดค่าใช้จ่าย

ระบบ Supply Chain ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการผลิต การขนส่ง การจัดเก็บสินค้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มกำไรหรือเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ

2. คุณภาพและความเชื่อถือ

ธุรกิจ supply chain คือตัวช่วยที่ดีซึ่งให้สามารถควบคุมและรักษาคุณภาพของสินค้าหรือบริการให้มีมาตรฐานสูง ซึ่งส่งผลให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและเชื่อถือในสินค้าหรือบริการของธุรกิจของเรามากขึ้นตามไปด้วย

3. ความเร็วในการตอบสนองต่อตลาด

ระบบ Supply Chain ที่เชื่อถือได้ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงและสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ ตามความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีความสามารถในการแข่งขันและเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น

4. ความเสถียรและความยืดหยุ่น

ระบบ Supply Chain ที่มีความยืดหยุ่นช่วยให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินหรือการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจอีกด้วย

5. บรรลุเป้าหมายระยะยาว

ระบบ Supply Chain ช่วยให้สามารถวางแผนและดำเนินงานในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตและปรับปรุงแนวทางการดำเนินธุรกิจในระยะยาวได้

6. การบริหารคลังสินค้า

ระบบ Supply Chain ช่วยในการจัดการคลังสินค้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าและป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

7. ความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ

ระบบ Supply Chain ช่วยในการเสนอข้อมูลและดูข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญในการตัดสินใจ ทำให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในระหว่างการทำงานในสภาวะที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8. รักษาสิ่งแวดล้อม

การควบคุมระบบ Supply Chain ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรด้วย

ตำแหน่ง Supply Chain ทำอะไรบ้าง

ตําแหน่ง supply chain คือ หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญซึ่งมีบทบาทที่แตกต่างกันในกระบวนการส่งมอบสินค้าและบริการ ได้แก่

ตำแหน่งงานหน้าที่
ผู้จัดการโซ่อุปทาน (Supply Chain Manager)วางแผน ควบคุม และจัดการกระบวนการทั้งหมดใน supply chain 
ผู้จัดการการจัดหาวัตถุดิบ (Procurement Manager)จัดหาวัตถุดิบและวัสดุที่จำเป็นในการผลิตสินค้า รวมถึงการเจรจาการซื้อขาย การเลือกซื้อแหล่งผลิต และการควบคุมคุณภาพ
ผู้จัดการคลังสินค้า (Warehouse Manager)ควบคุมและจัดการคลังสินค้า การจัดเก็บ การเรียกคืน และการจัดส่งสินค้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 
ผู้จัดการการขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation and Logistics Manager)ผู้จัดการด้าน logistic and supply chain คือ มีหน้าที่วางแผน ควบคุม และจัดการการขนส่งสินค้า 
ผู้จัดการความต้องการและบริการลูกค้า (Demand and Customer Service Manager)ติดต่อกับลูกค้า เข้าใจความต้องการของตลาด และวางแผนในการผลิตและจัดส่งสินค้า
ผู้จัดการความเสี่ยงและความปลอดภัย (Risk and Safety Manager)จัดการและลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจในโซ่อุปทาน รวมถึงการรักษาความปลอดภัยในการขนส่ง
ผู้จัดการความเชื่อถือและความคุ้มครอง (Compliance and Risk Manager)ตรวจสอบความปลอดภัย ความเชื่อถือ และความคุ้มครองทางกฎหมายในการทำธุรกิจ
ผู้จัดการคุณภาพ (Quality Manager)ควบคุมและรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการในทุกขั้นตอนของโซ่อุปทาน เพื่อให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน
ผู้จัดการข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Data and Information Technology Manager)จัดการระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีในการบริหารจัดการโซ่อุปทาน 
ผู้จัดการความยืดหยุ่นและความเร่งรัด (Flexibility and Agility Manager)สร้างความยืดหยุ่นในโซ่อุปทาน เพื่อให้สามารถปรับตัวในกรณีฉุกเฉิน
ผู้จัดการเรื่องการตลาดและขาย (Marketing and Sales Manager)วางแผนและดำเนินกิจกรรมทางการตลาด และการขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า
ผู้จัดการเรื่องการเงินและบัญชี (Finance and Accounting Manager)จัดการด้านการเงิน บัญชี และงบประมาณในการบริหารจัดการโซ่อุปทาน
ผู้จัดการส่วนบุคคลและทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Manager)การบริหารจัดการ supply chain คือจัดการและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในโซ่อุปทาน 

ตัวอย่าง Supply Chain ของแต่ละธุรกิจ

ตัวอย่าง Supply Chain: Tesla

Supply chain ของ Tesla, Inc. มีระบบห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อน เนื่องจาก Tesla ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและสินค้าเทคโนโลยีที่ต้องการวัตถุดิบและความสามารถทางเทคนิคที่หลากหลาย ต่อไปนี้คือขั้นตอนหลักใน supply chain ของ Tesla

1. จัดหาวัตถุดิบ

กระบวนการแรกใน Supply Chain ของ Tesla คือ การจัดหาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า วัตถุดิบเหล่านี้รวมถึงแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ใช้ในระบบพลังงานและควบคุมของรถ

2. ผลิตรถยนต์

Tesla มีโรงงานผลิตในหลายที่ทั่วโลก เช่น โรงงานในแคลิฟอร์เนีย ที่ผลิตรถยนต์รุ่น Model S, Model 3, Model X, และ Model Y ขั้นตอนนี้เป็นการประกอบรถยนต์และการทดสอบคุณภาพที่จะต้องอาศัยเทคนิคและความเชี่ยวชาญระดับสูง

3. การจัดการคลังสินค้า

Tesla จัดเก็บรถยนต์ที่ผลิตไว้ในคลังสินค้าและส่งมอบให้ลูกค้าที่ต้องการ โดยรถยนต์ในคลังสินค้าจะถูกจัดเก็บและรักษาคุณภาพให้มีความพร้อมสำหรับการส่งมอบต่อไป

4. การขนส่งสินค้า

Tesla มีระบบการขนส่งที่ทั่วโลกเพื่อจัดส่งรถยนต์ให้กับลูกค้า การขนส่งรถยนต์ไปยังลูกค้าสามารถไปได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ขึ้นอยู่กับสถานที่และเวลาที่ลูกค้าต้องการ

5. บริการหลังการขาย

Tesla มีระบบบริการลูกค้าที่มุ่งเน้นให้ความพึงพอใจแก่ลูกค้า เช่น การซ่อมบำรุงรถยนต์ และการอัปเกรดซอฟต์แวร์รถยนต์ระยะไกล (Remote)

6. การวางแผนและการบริหารจัดการ

การบริหารจัดการ Supply Chain ของ Tesla เน้นในการวางแผนและควบคุมกระบวนการผลิต การจัดส่ง และความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดเป็นหลัก

ตัวอย่าง Supply Chain: K18

Supply Chain ของ K18 ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลและฟื้นฟูเส้นผมที่มีคุณภาพสูงและมีชื่อเสียงในวงการความงาม มีดังต่อไปนี้

1. จัดหาวัตถุดิบ

Supply chain ของ K18 เริ่มต้นด้วยการจัดหาวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบเหล่านี้ประกอบด้วยสารสกัดจากพืชและสารเคมีที่คิดค้นขึ้นมาตามสิทธิบัตรของบริษัทเอง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมที่ปราศจากสารกัดกร่อนและอ่อนโยนต่อผม อีกทั้งยังต้องสร้าง “ผลลัพธ์” ที่น่าพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้อีกด้วย

2. การผลิต

หลังจากจัดหาวัตถุดิบแล้ว เจ้าหน้าที่ของ K18 จะนำวัตถุดิบมาผลิตตามกระบวนการ ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจใช้เทคโนโลยีชีววิทยาและเคมีเพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับ

3. ควบคุมคุณภาพ

ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจะถูกส่งผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นี่รวมถึงการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการดูแลผม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากเนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ K18 นั้นเป็นสินค้าที่ต้องสัมผัสเส้นผมและร่างกายของมนุษย์

4. การจัดเก็บสินค้า

ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการควบคุมคุณภาพเรียบร้อยแล้วจะถูกจัดเก็บในคลังสินค้าของ K18 โดยใช้ระบบการจัดเก็บที่ทันสมัย เพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้คงไว้ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง เช่น โดนความร้อนมากเกินไป, โดนแสงแดด หรืออาจปนเปื้อนกับสารเคมีที่เป็นอันตราย

5. การจัดส่งสินค้า

ผลิตภัณฑ์ K18 จะถูกจัดส่งไปยังลูกค้า ร้านค้าหรือตัวแทนที่ขายผลิตภัณฑ์ตามระบบที่ได้จัดวางไว้ ทำให้ลดโอกาสผิดพลาดในการขนส่งและสินค้าถึงมือลูกค้าได้ในสภาพดี ไม่มีรอยบุบ และเป็นระยะเวลาที่ไม่นานเกินไป

6. การบริการลูกค้า

K18 ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า ทีมบริการลูกค้าของแบรนด์จะทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในกรณีที่ลูกค้ามีคำถามหรือปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างใส่ใจ ซึ่งนั่นเป็นจุดที่ก่อให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์ของลูกค้า และต่อยอดให้ลูกค้าหน้าใหม่กลายเป็นลูกค้าประจำไปได้ในที่สุด

การทำธุรกิจที่มีสินค้านั้น การใส่ใจกับ Supply Chain นั้นสำคัญมาก หากเกิดข้อผิดพลาดหรือรอยรั่วตรงไหนก็อาจทำให้ธุรกิจซึ่งเปรียบเสมือนเรือลำใหญ่ จมลงสู่ใต้มหาสมุทรได้ ดังนั้นการศึกษาเรื่อง Supply Chain Management อย่างตั้งใจจึงเป็นทักษะที่เจ้าของธุรกิจควรทำความเข้าใจอย่างยิ่ง

(อยากทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็วแล้ว นอกจาก Hard Skills ต่าง ๆ ที่ต้องมี “ทักษะของผู้ประกอบการ” (Enpreneur Skills) ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน)

ที่มา:

Scroll to Top