เช็คแบล็คลิส บัตรเครดิต เช็คเครดิตบูโร ง่ายๆใน 2 ขั้นตอนด้วยตัวเอง จะด้วยเหตุผลใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นการกู้ซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อสิ่งของต่าง หรือเพื่อการใช้จ่ายภายในครอบครัว หากการเงินชำระดำเนินไปด้วยความราบรื่นก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่หากเดือนใดขาดสภาพคล่อง การเงินติดขัดไม่สามารถจ่ายค่างวดได้หลายๆเดือนเข้าก็จะมีบริษัทโทรมาทวงถามค่างวดและพูดว่าหากไม่จ่ายจะติดเครดิตบูโร เมื่อเจอคำนี้เข้าไปก็คงจะหวาดกลัวบวกกับงงๆ อยู่บ้างว่าคืออะไร บทความนี้เราจะมีไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเครดิตบูโร รวมถึงวิธีการเช็ดแบล็คลิส บัตรเครดิต และหากต้องการจะกู้เงินอีกจะทำได้หรือไม่ ติดตามศึกษาข้อมูลกันได้เลยค่ะ
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
เครดิตบูโร (National Credit Bureau) คืออะไร
ข้อมูลเครดิต ที่จะแสดงถึงตัวตนของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน หรือหากเป็นนิติบุคคลหรือบริษัท ห้างร้านจะหมายถึง สถานที่ตั้ง ชื่อร้าน เลขทะเบียน ซึ่งข้อมูลเครดิตจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. ข้อมูลที่บ่งบอกตัวตนของลูกค้า
2. ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ รวมถึงประวัติการชำระสินเชื่อ ข้อมูลที่เกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของลูกค้าจะถูกเก็บใจฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตและจะแสดงบนรายงานข้อมูลเครดิตเมื่อมีผู้ขอเรียกดู ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธนาคาร บริษัทที่ลูกค้าไปขอสินเชื่อ หรือลูกค้าต้องการขอดูข้อมูลเครดิตเองก็ได้เช่นกัน สิ่งที่จะบ่งบอกว่าคุณมีข้อมูลเครดิตเป็นอย่างไรนั้น จะดูจาก “สถานะบัญชี” คือข้อมูลที่แสดงสถานะของบัญชีสินเชื่อแต่ละบัญชีที่แสดงในรายงานข้อมูลเครดิต เช่นสินเชื่อปกติ สินเชื่อที่ปิดบัญชีแล้ว สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน สินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งสถานะบัญชีนั้นจะมีรหัสเลขแสดงสถานะข้อมูลเครดิต ซึ่งจะแบ่งย่อยลงไปอีกหลายตัว
วิธีการเช็คแบล็คลิส บัตรเครดิต
ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีการเช็คแบล็คลิส บัตรเครดิต เราควรมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับว่า แบล็คลิส (Blacklist)กันก่อน แบล็คลิส (Blacklist) คือ ภาษาพูดที่คนส่วนใหญ่ใช้เรียกกันสำหรับผู้ที่มีหนี้เสีย หรือไม่ชำระหนี้กับสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดว่าสถาบันเครดิตบูโรขึ้นบัญชีดำท่านไว้แต่ความจริงแล้วสถาบันเครดิตบูโรไม่ได้ขึ้นบัญชีดำใครเพียงแต่เก็บข้อมูลสถานะบัญชีของท่านไว้เท่านั้น
วิธีการเช็คแบล็คลิส (Blacklist) บัตรเครดิตสามารถทำได้ดังนี้
ท่านสามารถเช็คแบล็คลิส (Blacklist) บัตรเครดิต หรือตรวจสอบสถานะบัญชีของท่านได้หลายช่องทางด้วยกันดังนี้
1. ทางแอปพลิเคชั่น Krungthai Next เพียงเข้าไปที่แอปพลิเคชั่น ไปที่เมนูตรวจสอบเครดิตบูโร ค่าบริการครั้งละ 150 บาท ทราบภายทางอีเมล ภายใน 3 วันทำการ
2. กรุงเทพและต่างจังหวัด
– เคาน์เตอร์ธนาคาร(ทุกสาขา) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพียงยื่นบัตรประจำตัวประชาชน เสียค่าบริการ 150 บาท รอรับผลการตรวจสอบทางไปรษณีย์ ภายใน 7 วันทำการ
– ใช้บริการทางตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ มีบัตรATMของธนาคารไหน ให้ใช้ตู้ของธนาคารนั้น สอดบัตรในตู้ATM เข้าไปที่เมนูตรวจสอบเครดิตบูโรประชาชน เสียค่าบริการ 150 บาท รอรับผลการตรวจสอบทางไปรษณีย์ ภายใน 7 วันทำการ
– ที่ทำการไปรษณีย์ ตรวจสอบสาขาที่ให้บริการ ที่Call center โทร 1545 เพียงยื่นบัตรประจำตัวประชาชน เสียค่าบริการ 150 บาท รอรับผลการตรวจสอบทางไปรษณีย์ ภายใน 7 วันทำการ
แนวทางการกู้เงินสำหรับคนติดเครดิตบูโร
สำหรับผู้ที่มีข้อมูลสถานะบัญชีไม่เป็นปกติ หรือที่เรียกว่ากัน ติดเครดิตบูโร เรามีแนวทางในการขอกู้เงินดังต่อไปนี้
1. ชำระหนี้เก่า
- จ่ายหนี้ที่ค้างอยู่ให้เสร็จ
- หากมีหนี้จำนวนมากที่ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ในครั้งเดียวให้เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอลดหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้
2. สร้างประวัติเครดิตใหม่
- วินัยการเงินที่ดี จ่ายหนี้ตรงเวลา
- เดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอให้มีรายได้เข้าออก
- หมั่นตรวจสอบสถานะบัญชีเพื่อตรวจสอบบัญชีหนี้สิน
- ควรมีเงินเก็บในบัญชีจำนวนหนึ่งเพื่อดูว่ามีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นแสดงถึงความน่าเชื่อถือ
การเป็นหนี้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด แม้แต่ผู้ที่มีรายได้สูงๆหลายคนก็เป็นหนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพื่อจะได้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี หนี้ก็จะหมดไว ไม่เกิดปัญหาให้ปวดหัวตามมาทีหลัง
ที่มาข้อมูล บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (https://www.ncb.co.th)